เจ้าอาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นได้ออกมากล่าวกับสื่อว่า ตนเองนั้นไม่ได้มีความสนใจในตำแหน่งดาวซัลโวมากนัก เนื่องจากว่าต้องการโฟกัสกับผลงานโดยรวมของทีมมากกว่า แม้ว่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูอยู่บ่อยๆ แต่ก็รับว่าดีใจที่ยิงให้ทีมได้เยอะด้วยเช่นกัน

ศุภชัย ใจเด็ด รับสนใจเพียงแค่ทีมตัวเองเท่านั้น

ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่พัฒนาตัวเองได้ดีมาก สำหรับทาง เจ้าอาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด ที่ตอนนี้ขึ้นนำตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับทาง วิลเล่น โมต้า กองหน้าของทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่ง เจ้าอาร์ม ก็ได้บอกว่าดีใจมากที่ยิงให้กับทีมได้เยอะ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องคว้าตำแหน่งซัลโวมาครองให้ได้แต่อย่างใด เนื่องจากว่าสนใจในผลงานโดยรวมของทีมตัวเองมากกว่า

ในปีนี้ ศุภชัย ยิงไปแล้ว 16 ประตู ให้กับทางทัพ ปราสาทสายฟ้า ซึ่งเท่ากับกองหน้าต่างชาติอย่าง วิลเล่น โมต้า ที่เล่นให้กับทาง บียู ด้วยนั่นเอง โดยในปีที่แล้วดาวยิงชาว ปัตตานี รายนี้ก็สามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไทยลีกมาครองได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบนับสิบปีที่ ไทยลีก นั้นมีดาวเฃซัลโวเป็นคนไทย เพราะก่อนหน้านั้น จะเป็นตัวต่างชาติมาโดยตลอด

แถมในแมตช์ล่าสุดที่ บุรีรัมย์ เปิดบ้านเจอกับทาง เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่ปรับของทีมนั้น ทาง ศุภชัย เองก็ยิงได้อีก 1 ลูก ทำให้เวลานี้ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวๆของลีกไป หลังจากที่ วิลเล่น โมต้า ที่เล่นให้ แบงค็อก นั้นไม่สามารถทำประตูได้ในเกมที่ทีมนั้นเปิดบ้านเจอกับทาง พีที ประจวบ เอฟซี ด้วยนั่นเอง ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีกองหน้าสัญชาติไทยขึ้นมาเป็นดาวยิงกันบ้าง เพราะว่าทีมชาติไทยในแต่ละยุคนั้น ไม่มีกองหน้าที่จบสกอร์ได้ดีเท่าไหร่นักด้วย

จากชัยชนะในเกมที่เจอกับ เมือทอง นั้นมทำให้ทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขยิบเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ลีกเข้าไปอีกด้วย เพราะว่าทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด เก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนน เท่านั้น ในเกมที่เจอกับ ประจวบ ในศึก มันเดย์ ไนท์ ที่ผ่านมา โดยที่เหลือแมตช์การแข่งขันให้ลงเล่นอีกทีมละ 4 นัด แต่ บุรีรัมย์ นั้นนำอยู่ 5 คะแนน ถ้าชนะได้อีก 3 นัด ก็จะคว้าแชมป์มาครองได้ทันที

เมืองทอง ไม่จบยื่นฟ้องผู้ตัดสินเกมแพ้ บุรีรัมย์

จัดว่าเป็นบอลไทยอีก 1 คู่ ที่ลงสนามเจอกันเมื่อไหร่มีประเด็ดเกิดขึ้นได้ตลอด ซึ่งในแมตช์ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเยือนทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้วแพ้กลับมา 3-1 นั้น หลังจากจตบเกมนั้นทางสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ทำการส่งเรื่องไปให้ทาง บริษัทไทยลีก พิจารณาเกี่ยวกับการตัดสินของผู้ตัดสินในเกมนี้ทันที หลังจากที่มีจังหวะปัญหาที่ทำให้ เมืองทอง นั้นเสียประโยชน์ถึง 2 ครั้ง ด้วยกัน

โดยในจังหวะแรกนั้น เมืองทอง ชี้แจงว่าทาง ปรเมศย์ อาจวิไล กองหน้าของทีมนั้น โดนทาง เคนเน็ต ดูกอล มิดฟิลด์ของทีม บุรีรัมย์ กางแขนออกมาขวางทางวิ่งของนักเตะ ซึ่งศอกของทาง ดูกอล นั้นไปโดนใบหน้าของทาง ปรเมศย์ เต็มๆ แต่ว่าทาง ผู้ตัดสิน ในสนาม ไม่ได้เป่าฟาวล์ รวมทั้งทางห้อง VAR นั้นไม่ได้มีการเช็กในจังหวะนี้ด้วย

ส่วนในจังหวะที่สองนั้น เป็นจังหวะที่ทาง เมืองทอง นั้นเสียลูกจุดโทษในช่วงนาทีที่ 85 ซึ่งในช่วงเวลานั้น เมืองทอง ไล่ตาม ขึ้นมาเป็น 2-1 แล้ว โดยในจังหวะดังกล่าวนั้น สถาพร แดงสี กองหลังทีม เมืองทอง นั้นไปเบียดทาง กิเยร์เม่ บิสโซลี่ กองหน้าเจ้าบ้านล้มในเชตดทษ ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์ แต่ทาง VAR เห็นแย้งมา เรียกให้ไปเช็ก ก่อนที่เข้าไปแล้วจะเป่าเป็นจุดโทษให้กับทีเจ้าบ้าน ซึ่งจังหวะนี้ เมืองทอง มองว่า การกระแทกนั้น มันเบาเกินไปที่จะเป็นจุดโทษนั่นเอง

โดยทีมงานผู้ตัดสินและห้อง VAR ประกอบไปด้วยทาง วิศเวศ สังข์นคร เป็นผู้ตัดสินในสนาม บินปลา ปรีดา เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ภัทรพงษ์ กิจสถิตย์ เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 อลงกรณ์ คนไว ผู้ตัดสินที่ 4 ผู้ตัดสิน VAR ที่ 1 คือทาง นพภเดช เมืองงาม ผู้ตัดสิน VAR ที่สองคือ เชาวลิต พูนประสิทธิ์