การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นที่ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2025/26 อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อกุนซืออย่าง อาร์เน่อ สล็อต เริ่มวางแผนอนาคต ลิเวอร์พูล ยุคใหม่ อย่างจริงจัง ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของนักเตะหลักหลายคนที่กำลังจะอำลาทีม หรือเริ่มโรยรา แฟนบอล “เดอะ ค็อป” จึงต้องเตรียมใจกับไลน์อัพใหม่ที่จะเข้ามาสานฝันพาทีมกลับมาผงาดอีกครั้ง
ทำใจ! เทรนต์ เตรียมอำลา ปรับแผงหลังครั้งใหญ่
หนึ่งในข่าวที่แฟนบอลรับกันไม่ง่ายก็คือ การจากลาของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่มีแนวโน้มสูงถึง 90% ว่าจะย้ายไป เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์นี้ ซึ่งถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของลิเวอร์พูลในแง่ของความจงรักภักดีและฝีเท้าในเมื่อไม่มีเทรนต์ แถมแบ็กซ้ายตัวหลักอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็เริ่มแผ่ว ขณะที่ คอสตาส ซิมิกาส ยังไม่นิ่งพอ ทำให้ทีมต้องลงทุนซื้อแบ็กซ้ายคนใหม่ เช่นเดียวกับฝั่งขวาที่ต้องมีตัวแทนเทรนต์

ซึ่ง เจเรมี่ ฟริมปง จากเลเวอร์คูเซ่น กลายเป็นตัวเลือกน่าสนใจ ด้วยสปีด ความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ในระดับสูงด้านเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แม้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มีแนวโน้มสูงที่จะต่อสัญญา แต่คู่หูอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง ทำให้ชื่อของ ปิเอโร่ อินกาปิเอ้ จากเลเวอร์คูเซ่น เป็นเป้าหมายเสริมทัพที่น่าจับตามอง ด้วยสไตล์เกมรับแข็งแกร่ง และกล้าเล่นกับบอล
แบ็กโฟร์ที่น่าจะถูกวางไว้ในฤดูกาลหน้าประกอบด้วย:
- เจเรมี่ ฟริมปง (RB)
- ปิเอโร่ อินกาปิเอ้ (CB)
- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (CB)
- มิลอส เคอร์เคซ (LB)
อุ่นใจแดนกลาง เครื่องยนต์หลักพร้อมลุย
แผงมิดฟิลด์ของลิเวอร์พูลในซีซั่นหน้าอาจไม่เปลี่ยนอะไรมาก เพราะนักเตะชุดปัจจุบันทำผลงานได้น่าพอใจ โดยมีสามตัวหลักอย่าง
- ไรอัน กราเฟนแบร์ก
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
- โดมินิค โซโบซไล
ทั้งสามคนกลายเป็นขุมกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแดนกลาง พร้อมกับตัวสนับสนุนอย่าง เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และดาวรุ่งที่รอวันแจ้งเกิดเต็มตัวอย่าง เจมส์ แม็คคอนเนลล์ และ เทรย์ เอ็นโยนี่ ส่วน วาตารุ เอ็นโด ที่อายุเริ่มมากขึ้น อาจไม่ได้อยู่ในแผนระยะยาว ทำให้โฟกัสหลักของแดนกลางจะยังคงอยู่ที่ความยืดหยุ่นและความฟิตของผู้เล่นแกนหลักเหล่านี้
จุดเปลี่ยนแดนหน้า หน้าเป้าใหม่ ปีกซ้ายต้องเสริม
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือความหวังเดียวที่ยังอยู่เหนียวแน่นกับทีม หลังจากมีท่าทีชัดเจนว่าพร้อมต่อสัญญาและฝากอนาคตไว้กับหงส์แดงต่อไป แต่จุดที่น่าห่วงคือหัวหอกตัวเป้า และฝั่งซ้ายของเกมรุก

ดีโอโก้ โชต้า และ ดาร์วิน นูนเญซ อาจหลุดจากแผนการทำทีม ทำให้ตำแหน่ง “กองหน้าหมายเลข 9” ว่างลง ซึ่งมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล สนใจดึง แฮร์รี่ เคน กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แม้อายุล่วงเลยเกิน 30 ปี แต่ผลงานยิงประตูในบุนเดสลีกากับบาเยิร์นยังคงร้อนแรง
ด้านฝั่งซ้าย หลุยส์ ดิอาซ มีแนวโน้มจะย้ายทีมหลังมีข่าวพัวพันกับบาร์เซโลน่า ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเตรียมหาตัวแทน โดยชื่อของ อองตวน เซเมนโย่ จากบอร์นมัธ กำลังถูกพูดถึงอย่างมาก ด้วยฟอร์มที่โดดเด่น และสามารถแข่งขันแย่งตำแหน่งกับ โกดี้ คักโป ได้อย่างสูสี
ไลน์อัพแนวรุกที่อาจได้เห็น:
- LW: เซเมนโย่ (คักโป)
- ST: แฮร์รี่ เคน
- RW: โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ผู้รักษาประตู ยังแข็งแกร่ง แต่ต้องมีตัวเสริม
อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงเป็นมือหนึ่งของทีมแบบไร้ข้อกังขา แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนต่อเนื่อง ทำให้ทีมจำเป็นต้องเก็บ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เอาไว้ใช้งาน ขณะที่ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ผู้รักษาประตูทีมชาติจอร์เจีย ที่กลับจากสัญญายืมตัวกับบาเลนเซีย ก็พร้อมสร้างการแข่งขันในตำแหน่งนี้การมีทั้ง 3 คนอยู่ในทีมจะช่วยให้ระบบผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างลงตัว ติดตาม ไฮไลท์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ของคู่เด็ดลิเวอร์พูลได้ที่นี้
สรุปแผนการสร้างทีมใหม่ของอาร์เน่อ สล็อต
- เสริมหลังบ้านด้วยแบ็กและเซ็นเตอร์รุ่นใหม่
- รักษาความแข็งแกร่งในแดนกลางที่พร้อมใช้งาน
- ปรับแผนแนวรุกใหม่ โดยเน้นประสบการณ์และประสิทธิภาพ
- รักษาผู้เล่นตัวหลักอย่าง ฟาน ไดค์ และ ซาลาห์ ไว้กับทีม
ในตลาดซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลยุคหลังยุร์เก้น คล็อปป์ เพราะจะเป็นการรีเซ็ตทีมใหม่ด้วยแนวทางของโค้ชอาร์เน่อแบบเต็มตัว ซึ่งอาจใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการเสริม 4-5 ตำแหน่ง แต่ทั้งหมดก็เพื่อวางรากฐานสู่ความสำเร็จระยะยาว
บทสรุป ลิเวอร์พูล ยุคใหม่ พร้อมลุยศึกใหญ่เต็มสูบ
แม้การอำลาของนักเตะขวัญใจอย่าง เทรนต์ หรือการเปลี่ยนแปลงในแนวรุกอาจทำให้แฟนบอลรู้สึกใจหาย แต่หากมองในภาพรวม นี่คือการยกเครื่องทีมที่มีเป้าหมายชัดเจน และมีกลยุทธ์ที่แน่นอนจากกุนซือผู้มากประสบการณ์อย่างอาร์เน่อ สล็อตการเลือกเสริมเฉพาะจุด และการวางรากฐานด้วยนักเตะรุ่นใหม่ผสมประสบการณ์เก่า จะทำให้ลิเวอร์พูลพร้อมชนทุกทีมในฤดูกาล 2025/26 และหากทุกอย่างลงตัวตามแผน “หงส์แดง” อาจกลับมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
ข่าวสารฟุตบอลอื่นๆที่น่าสนใจ